top of page
  • Facebook Social Icon
  • Facebook - Black Circle
  • Instagram
Search

[REVIEW] YASHICA ELECTRO 35G

Updated: Mar 11, 2020

จริงๆ มันก็ไม่ใช่รีวิลซะทีเดียวนะครับ คือเรื่องของเรื่อง ตอนนี้กล้องฟิล์มกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ด้วยตัวผมเองก็เคยถ่ายมาบ้างสมัยมัธยม ก็พอจะมีกล้องฟิล์มอยู่กับตัวบ้าง


ตอนที่กำลังจะไปซื้อฟิล์มเพื่อเทสกล้องเก่าของผมว่ามันยังใช้ได้ไหม เพื่อน ที่ไปด้วยกันก็เห็นกล้องที่ขายอยู่ที่ร้าน เราเลยป้ายยาตามถนัด....


ree
YASHICA ELECTRO 35G

สุดท้าย ได้ YASHICA ELECTRO 35 เลือกมาเป็นรุ่น G ธรรมดา เพราะราคา GS GSN ตามร้านจะสูงนิดนึง ซีรีย์สีดำ GT GTN ก็แพงกว่าอีก ส่วนตัวเห็นว่าคุณภาพไม่ต่างกันมาก เลยแนะให้เพื่อนเอาตัว G มาก็พอ


สิ่งแรกที่เพื่อนบอกคือ เอาไปเทสด้วย!!!!


ree
YASHICA DIGIFILM Y35

เอาจริงๆ กล้องตัวนี้ ผมก็สนใจอยู่เหมือนกัน โดยความเป็นมาคือ


เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว มีเปิดให้พรีออเดอร์ (ระดมทุน) กล้อง YASHICA DIGIFILM Y35 ที่เป็นกล้องดิจิตอล แต่จุดสนใจอยู่ที่ DIGIFILM ผู้ผลิตตั้งใจทำออกมาเหมือนเราใช้ฟิล์ม ตัว DIGIFILM จะมี ISO แตกต่างกัน เหมือนเราใช้ฟิล์มจริงๆ ซึ่งดูน่าสนใจทีเดียว แต่รูปก็ถูกเก็บอยู่ที่ SD CARD อยู่ดี


แต่ พอมันออกมาจริงๆแล้ว ไม่ได้รับความนิยม เพราะคุณภาพของภาพที่แย่ วัสดุไม่ดี ไม่ได้อย่างที่โฆษณาไว้ และ มีราคาแพง


รูปทรงของกล้อง จำลองหน้าตาของกล้องฟิล์มมา และดูสวยดี ผมจึงแอบสนใจ


ree
Cr. Wendy Wei

กลับมาที่ ELECTRO 35G ระบบโฟกัสของกล้องเป็นแบบ RANGE FINDER (RF) คือ ในช่องมองภาพ จะมีจุดโฟกัสอยู่สองจุด มีจุดกลางอยู่นิ่งๆ แล้วเราต้องหมุนโฟกัสอีกจุดให้เลื่อนมาซ้อนกัน อันนั้นคือโฟกัสเข้าแล้ว


ตัวกล้อง ติดเลนส์ ระยะ 45mm F1.7 ซึ่งถือว่าระยะกำลังพอดีสำหรับผม มันจะมีหลายๆรุ่นที่ใช้ระยะ 35mm ซึ่งเป็นระยะที่ผมไม่ถนัด



ree
Cr. Bruno Cervera

สัมผัสแรก ก็เหลี่ยมๆ อะนะ หนักพอดีๆ (750กรัม) ซึ่งอาจจะหนักถ้าเทียบกับกล้องระบบ RF รุ่นอื่นๆ แต่ปกติ ถือกล้องดิจิตอลตัวใหญ (1D mark 3) มาก่อน ซึ่งหนักประมาณ 1400กรัม แล้ว 35G ตัวนี้สบายๆ


เสียงชัตเตอร์เบาดี แต่มันไม่เท่ห์.....แต่หน้าตามันเท่ห์มากจริงๆ


ree
Cr. Kungzilla48

ตัวกล้องมีระบบวัดแสง และไฟเตือนโอเวอร์-อันเดอร์ด้วย ซึ่งช่วยในการถ่ายได้เยอะ


การปรับค่าต่างๆ เราปรับได้แค่ F และ ISO (ASA) ปรับให้ตรงกับฟิล์มที่เราใช้ แล้วกล้องจะคำนวนความเร็วชัตเตอร์ให้


ถ้าวัดแสงกล้องเกิดเสีย ก็ยังสามารถถ่ายได้ ที่อ่านๆ ข้อมูลมา กล้องจะตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ไว้ที่ 1/500 ตลอดเวลา เราก็ต้องใช้เครื่องวัดแสง หรือ APP วัดแสงในมือถือ และปรับกล้องตามค่านั้นๆ ได้


ree
KODAK COLORPLUS 200

ฟิล์มที่ใช้ถ่ายก็เป็น KODAK COLORPLUS 200 ที่ใช้ตัวนี้เพราะถูกสุดในร้าน.....และถามทางร้านว่า ผมถ่ายแต่คน ระว่าง FUJI C200 อันไหนดีกว่า เค้าแนะนำ KODAK มา เลยจัดซะ


ซึ่งการใช้งานไม่ยากเลย หมุนโฟกัสให้ภาพมาซ้อนกัน กดชัทเตอร์ลงระดับหนึ่ง ถ้ามีไฟเตือน เราก็ปรับค่า F ขึ้นลง ตามที่ไฟกล้องฟ้องว่าสว่างไปหรือมึดไป พอไฟไม่แจ้งก็กดถ่ายได้เลย หลักการถ่ายมีแค่นี้

ตัวอย่างรูป จากกล้องและฟิล์ม เข้าไปชมในอัลบัมได้ครับ https://snk9744.wixsite.com/website-5



ผลของการเทสกล้อง เป็นที่น่าพอใจทั้งตัวกล้องที่ใช้ง่าย ภาพที่ได้ก็ดีนะ สุดท้ายก็อยู่ที่มุมมอง การถ่ายฟิล์ม ทำให้เราคิดมากขึ้นกว่าเดิม ว่าจะถ่ายอะไรออกมาบ้าง


สุดท้าย ผมจะไม่สรุปข้อดีข้อเสียของกล้องนะครับ คือถ้าชอบก็ใช้ ไม่ชอบก็ขายทิ้ง ถ้ามันแพงไปตามกระแส ก็อย่าไปซื้อ ยังมีตัวอื่นให้ที่ถูกกว่านี้ลองซื้อมาใช้ดูครับ


ขอขอบคุณเจ้าของกล้องที่ให้มาลองเทสนะครับผม ขอบคุณผู้อ่าน ที่อ่านจนจบครับผม.....

 
 
 

Comments


© 2019 by Kungzilla48 Photography. Proudly created with Wix.com

bottom of page